ปัญญาสมาพันธ์ ศูนย์รวมของผู้ทรงคุณวุฒิในหลากหลายแขนงวิชา ร่วมกันศึกษา ค้นคว้า วิจัย | เท่ อินเด็กซ์ ให้เอกชน ‘ผ่าน’ คาบเส้น แต่ยังหวั่น เก๋าโกง ก็อปเก่ง ไอเดียกุด
16720
single,single-post,postid-16720,single-format-standard,ajax_fade,page_not_loaded,,side_area_uncovered_from_content,qode-theme-ver-7.8,wpb-js-composer js-comp-ver-4.8.1,vc_responsive

เท่ อินเด็กซ์ ให้เอกชน ‘ผ่าน’ คาบเส้น แต่ยังหวั่น เก๋าโกง ก็อปเก่ง ไอเดียกุด

wisdomcouncil2

27 Jan เท่ อินเด็กซ์ ให้เอกชน ‘ผ่าน’ คาบเส้น แต่ยังหวั่น เก๋าโกง ก็อปเก่ง ไอเดียกุด

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสภาปัญญาสมาพันธ์เพื่อการสร้างชาติ ร่วมกับคณะกรรมการฯ ผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันต่างๆ ร่วมแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อประสิทธิผลภาคเอกชนประเทศไทย (Thailand’s Private Sector Effectiveness Index : PVE Index) ณ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในภาพรวมทุกด้าน ประชาชนให้คะแนนภาคเอกชนระดับกลาง ร้อยละ 61 เรียกว่า “พอสอบผ่าน”

wisdomcouncil27 wisdomcouncil23 wisdomcouncil26
สภาปัญญาสมาพันธ์เพื่อการสร้างชาติ เผยผลสำรวจประสิทธิผลภาคเอกชนภาพรวมประชาชนให้พอผ่าน พอใจช่วยเศรษฐกิจโต ตอบสนองผู้บริโภคแต่ยังด้อยเรื่องสร้างนวัตกรรม สร้างธุรกิจใหม่ มองว่ายังมีติดสินบนและรับผิดชอบสังคมไม่ดีพอ ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสภาปัญญาสมาพันธ์เพื่อการสร้างชาติ และประธานอำนวยการบริหารจัดทำดัชนีฯ ประสิทธิผลประเทศไทย (TE Index) แถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อประสิทธิผลภาคเอกชน ประเทศไทย (Thailand’s Private Sector Effectiveness Index : PVE Index) ในภาพรวมทุกด้าน ประชาชนให้คะแนนภาคเอกชนระดับกลาง ร้อยละ 61 เรียกว่า พอสอบผ่าน จากการสำรวจ 3 หมวด พบว่า ประชาชนยอมรับว่า ภาคเอกชนมีบทบาทช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดี จากความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ โดยในหมวดด้านการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้คะแนนสูงสุด 62.4% เทียบกับหมวดด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ได้ 61% และหมวดด้านสถาบันภาคเอกชน ได้คะแนนต่ำสุด 59%

เมื่อวิเคราะห์รายด้าน ในหมวดด้านการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พบว่าภาคเอกชนสามารถตอบสนองต่อผู้บริโภคได้ดี ทั้งด้านการผลิตสินค้าและบริการ มีค่าดัชนี 67.8% แม้ว่ายังมีข้อด้อยในการบริหารทรัพยากร (59.5%) การสร้างอุตสาหกรรมต่อเนื่อง (60%) มีจุดอ่อนในการสร้างมูลค่าเพิ่ม ความสามารถในการสร้างธุรกิจใหม่ และปรับตัวต่อสถานการณ์ทางธุรกิจยังได้ไม่ดีพอ ในหมวดความรับผิดชอบต่อสังคม แม้ว่าประชาชนจะมองว่า ภาคเอกชนค่อนข้างปฏิบัติตามกฎหมาย มีการช่วยเหลืองานสาธารณะ การเปิดเผยอย่างโปร่งใสของข้อมูล การใส่ใจต่อผู้บริโภค โดยมีค่าดัชนีร้อยละ 60 ขึ้นไป แต่ขณะเดียวกัน กลับให้คะแนนต่ำในประเด็น คอรัปชั่น ความรับผิดรับชอบ การรณรงค์เชิงสังคม โดยมีค่าดัชนี 58.7%, 58.8% และ 58.9% ตามลำดับ

แสดงให้เห็นว่าภาคธุรกิจยังถูกมองว่ามีการติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อธุรกิจสร้างผลกระทบทางลบต่อสังคมแล้วรับผิดชอบไม่เพียงพอ และไม่ได้เชิญชวนให้ประชาชนสนใจในปัญหาสังคม อาจเป็นเพราะว่า ทั้งสามประเด็นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องและส่งผลกระทบกับผู้บริโภคโดยตรง ส่วนในหมวดสถาบันเอกชน ซึ่งมีค่าดัชนีต่ำสุด ผลสำรวจประชาชนยังมองว่า ภาคเอกชนมีจุดอ่อน ด้านการสร้างนวัตกรรม ซึ่งได้คะแนนเพียง 57.9% และด้านความเป็นผู้ประกอบการ ได้คะแนน 58.6% แสดงให้เห็นว่า องค์การธุรกิจไทยยังคงมีจุดอ่อนในความสามารถในการแข่งขันระยะยาว เพราะมีการสร้างนวัตกรรมได้น้อย ความเป็นผู้ประกอบการมีน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวให้เกิดคุณลักษณะดังกล่าว

ข้อสังเกตประการหนึ่ง เมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่าง พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่างกันจะให้ผลประเมินแตกต่างกัน ในประเด็นความรับผิดชอบต่อสังคม โดยกลุ่มตัวอย่างในช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปี มองธุรกิจว่ามีความรับผิดชอบต่อสังคม มากกว่า กลุ่มอายุเกิน 60 ปี ซึ่งมองว่าธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมน้อย ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะภาคธุรกิจทำกิจกรรม CSR กับกลุ่มเยาวชนมากกว่า หรือใส่ใจในกลุ่มผู้สูงอายุน้อยเกินไป ดังนั้นธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อสังคมกับผู้สูงอายุให้เพิ่มขึ้น

การรับรู้ของประชาชนที่มีต่อภาคเอกชนจากผลการสำรวจนี้ คงช่วยให้ ภาคเอกชนกลับไปประเมินตนเอง ในด้านต่าง ๆ ที่ยังเป็นจุดอ่อน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและความอยู่รอด ขององค์กร เพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศโดยรวมต่อไป

 

การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อประสิทธิผลภาคเอกชนประเทศไทย (Thailand’s Private Sector Effectiveness Index : PVE Index)

PVE Index

No Comments

Post A Comment